สวัสดีเพื่อนๆชาว GooAB.Net อีกครับนะครับ เมื่อวันก่อนไปเดินพันธ์ทิป พลาซ่ามา ก็ไปพบกับป้ายโฆษณา เจ้า Kaspersky Internet Security 2010 กับพี่ เฉินหลง ๕๕๕ ช่างเข้ากันจริงๆ ประมาณว่าโปรแกรมเขาเป็นนักบู้ ว่าแล้วก็เลยเอา รีวิวดีๆมาฝากเพื่อนกันนะครับ เห็นมีหลายคนบอกต่อกันว่าดีหนักหน่า สำหรับใครที่สนใจนะครับเจ้าตัวนี้เค้า มีเวอร์ชั่นทดลองใช้ ให้ได้ใช้กันฟรีๆ 30 วันครับ ถ้าลองใช้แล้วดีอย่างไรผมก็แนะนำว่า ถ้าพอจะมีสตางค์ ก็ใช้ของจริงเถิดครับ ปลอดภัยหายห่วงครับ ^^ หวังว่าข้อมูลต่างๆจะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจใช้งานนะครับผม หรือมีอะไรจะแนะนำก็ช่วยกันคอมเม้นไว้นะครับ จะได้เป็นแหล่งข้อมูล สำหรับท่านอื่นพิจารณาด้วยครับผม
ดาวน์โหลดเวอร์ชั่นทดลอง 30 วัน
|
แน่นอนครับว่า การปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน เพราะข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในเครื่อง มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลปกป้องอย่างดีเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าท่านจะใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการทำงาน ธุรกรรมผ่านธนาคารออนไลน์ หรือเพื่อความสนุกสนาน ทำให้ทาง Kaspersky ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนา Internet Security 2010 โซลูชันรวมทุกสิ่งที่ให้ความปลอดภัยแก่ท่าน จากการใช้งานอินเทอร์เน็ต และ Anti-Virus 2010 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่พึ่งออกมาไม่นานนี้
หลังจากที่ใช้ Kaspersky Internet Security 2010 มา 1 เดือนเต็มๆ ได้รู้สึกได้ว่า เจ้าชุดโปรแกรม Internet Security 2010 ตัวนี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นมาดีกว่าเวอร์ชัน 2009 ครับ มีการบริโภคทรัพยากรเครื่องน้อยลง ไม่ได้ทำให้เครื่องหนืดแต่อย่างใด ช่วยให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ หมดกังวลเรื่องของอาชญากรบนโลกไซเบอร์ พร้อมกับฐานข้อมูลไวรัส ที่อัพเดตตลอดเวลา ทำให้การดับจับผู้ไม่หวังที่ ที่จะมาในรูปแบบต่างๆ เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น ช่วยคุ้มครองเครื่องของคุณให้ปลอดภัยอยู่เสมอ และยังมาพร้อมกับด้านคุณสมบัติ ลูกเล่นที่มีประโยชน์และประสิทธิภาพ การปกป้องคุ้มภัย ที่เชื่อถือได้
![]() Kaspersky Internet Security 2010 เวอร์ชันนี้ ได้พกพาพวกลูกเล่น คุณสมบัติ ที่เป็นประโยชน์มา แน่นกล่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Host-based Intrusion Prevention System (HIPS) ที่คอยเป็นหูเป็นตาจัดอันดับเรตติ้ง ความเสี่ยง ของมัลแวร์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่เปลี่ยนกันเข้ามาเกาะแกะเราทุกวัน หรือจะเป็นเทคโนโลยี Virtualization พิเศษสุด Sandbox ที่ให้การปกป้องคุ้มครองอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา และที่สำคัญ ที่ให้ผลการป้องกัน ดูแลที่มีประสิทธิภาพ ที่สุด ได้แก่ ชุมชนเครือข่าย เพื่อความปลอดภัย Kaspersky Security Network (KSN) ที่รวบรวมข้อมูล สดใหม่ทันสมัยจากสมาชิกหลายล้านคนทั่วโลก เพื่ออัพเดทข้อมูลในดาต้าเบสแอนตี้ไวรัส ทำให้ดาต้าเบสของ Kaspersky มีความทันสมัยใหม่อยู่เสมอ เราไปดูกันดีกว่าว่า Kaspersky Internet Security 2010 เวอร์ชันใหม่นี้ จะมีหน้าตาการทำงานอย่างไรกันบ้าง ด้วยฟีเจอร์ที่มีทั้งสร้างขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงของเดิมให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ![]() อินเทอร์เฟซหน้าแรกของ Kaspersky Internet Security 2010 ที่หน้าตาก็เปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชัน 2009 เล็กน้อยเท่านั้น ![]() หน้า My Security Zone ที่จะมีการแสดงจำนวนแอพพลิเคชันต่างๆ ที่มีอยู่ในเครื่องว่า มีความปลอดภัยอยู่ในระดับไหนบ้าง พร้อมกรอบ Sandbox ด้านล่าง สำหรับการรันการทำงานแบบ Virtualization เพื่อให้เครื่องของคุณปลอดภัยจากการโจมตี ![]() หน้า Scan My Computer เลือกสแกนฮาร์ดดิสก์ตามพาร์ติชันต่างๆ โฟลเดอร์สำคัญๆ หรือแม้แต่แผ่นซีดี/ดีวีดี และแฟลชไดร์ฟ ได้ตามใจชอบ พร้อมทั้งตัวเลือกการสแกนแบบ Full หรือ Quick ก็ได้เช่นกัน ![]() หน้า My Update Center คอยบอกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ มีการอัพเดตการป้องกันภัยคุกคามต่างๆ โดยอัตโนมัติ วันละหลายๆ รอบ เพื่อให้คุณแน่ใจคอมพิวเตอร์และข้อมูลจะปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ![]() หน้า Security+ สำหรับเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การป้องกันการถูกขโมยรหัสผ่าน ด้วย Keylogger หรือ Parental Control สำหรับการควบคุมการใช้งานของลูกๆ คุณ เป็นต้น ![]() หน้า Settings ที่มีไว้สำหรับการตั้งค่าการใช้งาน Kaspersky Internet Security 2010 ที่คุณเลือกใช้งานได้ตามใจชอบ แต่ผมแนะนำว่า ปล่อยให้เป็นแบบ Default แหละครับ ดีที่สุด ![]() หน้า Report นี้จะเป็นหน้าที่คอยรายงานผลว่า คอมพิวเตอร์ของเราต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีในรูปแบบใดมากที่สุด Kaspersky Internet Security 2010 และ Kaspersky Anti-Virus 2010 สามารถใช้งานได้กับ Windows 7, Windows Vista ทั้งระบบ 32 บิตและ 64 บิต และ Windows XP Home และ Professional และมีวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังเอาใจผู้ใช้ ที่ชื่นชอบพระเอกยอด นักบู๊แชมป์ ปราบอธรรมจากค่ายเอเชีย ที่ไปบุกฮอลลิวู้ด จนโด่งดัง ด้วยการเปิดตัว KAV2010 เวอร์ชัน Limited Edition ที่มีรูปเฉินหลง หรือแจ็คกี้ ชานอยู่หน้ากล่อง พร้อมเปิดตัวโฆษณา โทรทัศน์ที่ได้พระเอก นักบู๊คนนี้ เป็นคนยืนยัน ว่าไม่วางใจ ใครคุ้มครองป้องกัน ให้พ้นวายร้าย อธรรมเวลา ท่องอินเตอร์เน็ต เท่ากับ Kaspersky เพียงคลิกเข้าไปที่ www.antivirus365.net เท่านั้น ![]() ราคาวางจำหน่าย Kaspersky Anti-Virus 2010 (Single User) ราคา 690 บาท Kaspersky Anti-Virus 2010 (3 Users) ราคา 1,380 บาท Kaspersky Internet Security 2010 (Single User) ราคา 890 บาท Kaspersky Internet Security 2010 (3 Users) ราคา 1,780 บาท ประเภทต่ออายุการใช้งาน Kaspersky Anti-Virus 2010 (Single User) ราคา 400 บาท Kaspersky Anti-Virus 2010 (3 Users) ราคา 820 บาท Kaspersky Internet Security 2010 (Single User) ราคา 530 บาท Kaspersky Internet Security 2010 (3 Users) ราคา 1,100 บาท ที่มา : www.thaikaspersky.com หรือ www.kaspersky.com ที่มา : http://www.magmareport.com/content/6553 |
Review : Kaspersky Internet Security 2010 (KIS2010)
posted on 09 Sep 2009 14:22

หลังจากนอนซมจากอาการโรคกระเพาะกำเริบโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยมา..เอ่อ... 6 วันมั้ง ในที่สุดก็อาการดีขึ้นจนลุกขึ้นมาเล่นเกม เอ๊ย.. ทำงานได้เช่นเคยและได้ถือโอกาสอัพบล็อกไปด้วยซะเลย *0*
คำเตือน : entry นี้เขียนขึ้นเนื่องจากหมั่นไส้เพื่อน ขอให้เตรียมใจรับฟังคำเสียดสี+เยาะเย้ยต่อ KAV เอาไว้และขออภัยผู้ใช้งาน KAV และทาง Kaspersky Lab มา ณ ที่นี้
พอดีวันก่อนเพื่อนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บอกว่ามีบูธของ Kaspersky ไปขาย Kaspersky Anti Virus 2010 Special Edition ที่มหา'ลัยในราคาแค่ 199 บาท O_o แล้วมีหน้ามาอวดว่าในที่สุดตูก็ใช้ Antivirus แท้แล้วนะ (หลังจากที่มันใช้แต่ของปลอมมา 20 ปี) ก็เลยเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ บวกกับเพิ่งจะได้อัพเกรด KIS ของตัวเองจาก 2009 เป็น 2010 เพราะมัวแต่ขี้เกียจ + นอนซมอยู่ก็เลยเพิ่งจะได้อัพอะนะ และเหตุผลสำคัญคือจะตอกย้ำว่า KIS มันดีกว่า KAV เฟร้ยย ของมันคนละชั้นอย่ามาอาจหาญเทียบเคียง คริๆ
เนื่องจาก license เก่ายังไม่หมดอายุเพราะฉะนั้นเลยไม่มีกล่องมาให้ดูต้องขออภัยด้วย โอเคเราข้ามขั้นตอนการ Install และ Activate ไปเลยเน้อ เพราะก็ใช้วิธีเดียวกันกับ KIS รุ่นก่อนๆทุกประการน่ะแหละ เมื่อ restart เรียบร้อยสิ่งแรกที่เห็นความเปลี่ยนแปลงคือ Icon ของ KIS ตรง System Tray ที่ดูมีมิติ ไฮโซขึ้น ฮร่าๆๆ หา? ไอตรงนั้นจะเป็นไงก็ช่างรึ? โอเคงั้นข้ามไปก็ได้ ชิๆ
เมื่อเปิดขึ้นมาจะเจอกับ...หน้าจอหลัก (แหงล่ะ) ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้บอกสถานะการทำงานโดยรวมของโปรแกรม โดยในเวอร์ชั่น 2010 นี่ได้ปรับ Interface ให้ดูสวยงามไฮโซมากขึ้นโดยเฉพาะกราฟ Real time scan ที่เปลี่ยนจากกราฟแท่ง (ใช่มั้ยหว่า) มาเป็นรูปแบบของ Sonar แทน และไฟแสดงสถานะก็เปลี่ยนจากไฟธรรมดาๆ มาเป็นไฟแบบ...เค้าเรียกว่าอะไรไม่ทราบได้เอาเป็นว่าดูรูปเอาละกัน ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ โดยเฉพาะเวลาขึ้นไฟแดงแล้วจะรู้สึกเหวอขึ้นกว่าเดิมเป็น 2 เท่า -0- การจัดวาง Menu ต่างๆในหน้าหลักก็ดูเรียบร้อยและเป็นสัดส่วนขึ้น ก็ถือว่าทำงานมาดีใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับหน้าหลักของ KIS 2010 หุหุ
ต่อไปเราไปดูส่วนอื่นๆกันต่อ โดยส่วนใหญ่ก็คล้ายๆของเดิมเพราะฉะนั้นก็คงจะพูดแต่ส่วนที่สำคัญๆ แล้วก็ส่วนที่เปลี่ยนแปลงในเวอร์ชั่นนี้ละกัน คู้คุคุคุ
My Protection :ส่วนแรกก็คือ My Protection ก็คือส่วนใหญ่สุดของ KIS ซึ่งมีหน้าที่หลักคือคอยควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ในส่วนต่างๆ ให้เป็นไปตามปกติ(สุข) โดยจะมี 3 หัวข้อใหญ่แต่พอคลิกเข้าไปมันก็จะไปอยู่ที่หน้าเดียวกันโดยจะแบ่งประเภทให้รู้ว่าส่วนไหนเป็นของอะไร
แ่ต่ถ้าใครอยากได้ความรู้สึกเดิมๆก็สามารถเข้าไปทาง Settings ที่อยู่ทางมุมขวาบนของหน้าจอหลักได้ รวมถึง feathers ต่างๆที่อาจจะหากันไม่เจอก็จะอยู่ใน Settings นี่แหละ
โดยใน Settings นี้ก็มี feather ใหม่เอี่ยมซ่อนตัวอยู่นั่นก็คือ Gaming Profile ซึ่ง(เค้าบอกว่า)จะทำให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น แต่ที่จริงแล้วผมว่ามันก็แค่เป็นการสั่งให้ KIS ไม่ทำอะไรที่จะทำให้หน้าจอมันเด้งขึ้นมาเท่านั้นเอง - - แต่ก็เอาเถอะมีก็ดีกว่าไม่มีล่ะนะ
โดยส่วนของ My Protection มีส่วนที่เปลี่ยนแปลงใหญ่ๆก็คือส่วน Application Control ซึ่ง KAV ไม่มีนะจ๊ะ ฮร่าๆๆๆ โดยรอบนี้ Program ที่ไม่มี Digital Signature หรือมีอยู่ในฐานข้อมูล Trusted Application ของทาง Kaspersky Lab จากโดนถีบไปไว้ในหมวด Low Restricted กันถ้วนหน้า แถมจะไปปรับขึ้นเป็น Trusted Application ดุ่นๆเหมือนกับตอน KIS2009 ก็ไม่ได้ซะด้วย ต้องไปปรับในส่วนของ Exclusion List ที่ใน KIS2009 จะใช้เฉพาะกับ Object เท่านั้น แต่2010 เอามาใช้กับ Application ด้วยซะงั้น แต่ก็คงเป็นวิธีแก้ไขไม่ให้ User ที่อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่อง (เหมือนเพื่อนผมคนนึง) ไปปรับให้ทุกโปรแกรมอยู่ใน Trusted Application หมด ผลก็คือเครื่องเดี้ยงนั่้นเอง -0- เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คงจะทำมาเพื่อการนี้น่ะแหละ ส่วน Urgent Detection System ที่ KAV ไม่มีอีกน่ะแหละ รู้สึกทาง server ของ Kaspersky Lab จะเร็วขึ้นเล็กน้อย ส่วน 2-way Firewall และ Secure wireless connections ก็ทำงานเป็นปกติ (ให้เพื่อนลองแฮกเข้ามาเด้งเตือนกันเลยทีเดียวเชียว) ซึ่ง 2 อย่างนี้ KAV ก็ไม่มีเช่นกัน ส่วน Anti-Spam ก็ทำงานได้ห่วยแตกเหมือนเดิม Anti-Phishing ก็คงใ้ช้งานได้ล่ะมั้งเพราะเว็บที่เคยใ้ช้เทสต์โดนสั่งปิดไปซะละ แน่นอนว่า 2 อย่างนี้ KAV ก็ไม่มีนะจ๊ะ ฮี่ๆๆ
My Security Zone : ส่วนต่อไปคือส่วนของ Security Zone ซึ่งมี feather ใหม่ที่สำคัญ(มั้ง) อย่างนึงของ KIS2010 ก็คือ Safe Run (Sand Box) ซึ่งจะเป็นการรันโปรแกรมที่ผู้ใช้คิดว่าน่าสงสัย(อันนี้ผู้ใช้ต้องตัดสินใจเองนะครับ) ไปรันใน virtual machine ซึ่ง(คาดว่า)คงจะรันจากภายใน module ของ KIS เองเพื่อดูว่ามีการทำงานอะไรน่าสงสัยที่ KIS อาจจะตรวจไม่พบ ซึ่งถ้ารันแล้วมันเกิดมีปัญหาอะไร KIS ก็แค่ระเบิด (แป่ว) แล้วอย่างมากเราก็แค่ restart เครื่องใหม่เท่านั้นเองครับผม ซึ่งผมก็เอา firefox ยัดเข้าไปใช้ใน mode นี้ล่ะครับเผื่อมี script อะไรแปลกๆ จะได้สบายตัว โฮ่ๆๆ และแน่นอนว่า Safe Run Mode ก็ไม่มีใน KAV อีกเช่นเดียวกัน :P
ส่วน Scan และ Update center ขอไม่พูดถึงละกันนะครับ เพราะมันก็เหมือนเดิมน่ะแหละ นอกจากคราวนี้จะแยกส่วนของ Scan Computer ธรรมดากับ Vulnerability Scan ออกจากกันเท่านั้นเอง ข้ามๆๆ
Security+ : ส่วนสุดท้ายก็คือ Security+ หรือส่วนนอกเหนือจากที่กล่าวมา (แป่ว) โดยมี Virtual Keyboard , Parental Control (ที่ KAV ไม่มี แต่คงไม่มีคนใช้เท่าไหร่มั้ง) และ Rescue Disk ที่ภาคนี้ทำได้ซะทีั เพราะ KIS2009 มันจะเอ๋อตอน download image จาก server ประจำ แล้วก็มี feather ใหม่ก็คือ Erase activities history และ Tune up browser setting (ที่ทำได้เฉพาะกับ IE -0-) รวมถึง Safe folder ที่ใช้เก็บข้อมูลที่สำคัญๆ ไว้กันไวรัสกิน แน่นอนว่า KAV ไม่มี feather นี้ คริๆ
ส่วนการทดสอบการใช้งานจริงถือว่าแทบไม่เห็นความแตกต่างด้านความเร็วในการบูตเครื่องเข้าสู่ Windows ของ KIS2009 และ 2010 เลย แต่การ Scan นั้นรู้สึกว่าทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ real-time scan และการทำ Full scan ที่เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึง feather ใหม่ๆที่ช่วยให้การใช้งาน Computer ที่ต้องเชื่อมต่อกับ Internet อยู่ตลอดเวลาเป็นไปด้วยความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการการันตีจากนิตยสาร IT ชั้นนำหลายๆค่ายในหลายประเทศ ก็น่าจะทำให้ Kaspersky Internet Security 2010 ขึ้นแท่น Antivirus ขายดีในปีนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
สำหรับท่านที่สนใจจะใช้งาน Kaspersky อยู่แต่กำลังตัดสินใจ (พร้อมกับเหลือบดูเงินในกระเป๋า) ว่าจะใช้ KIS หรือ KAV ดีนั้น ผมขอแนะนำให้ใช้ KIS ไปเลยครับ ซึ่งถ้าหาเพื่อนๆที่จะซื้อกันมา 3 คนไปซื้อแบบ 3 User Package ก็จะได้ราคาอยูที่ประมาณคนละ 400 บาท (เห็นเพื่อนมันบอกมาว่าที่พันทิพย์ขายประมาณนั้น) แล้วจะได้ใช้ feather ต่างๆที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ที่ค่อนข้างจะจำเป็นสำหรับ Computer ที่ต้องต่อ Internet อยู่ทุกวันนะครับผม
ก่อนจะจบ entry นี้อยากจะฝากไว้ว่าไม่ว่าจะมีโปรแกรม Antivirus ที่ดีขนาดไหน แต่ถ้า User ไม่รู้จักระมัดระวังโดยคิดว่ามี Antivirus แล้วจะทำยังไงก็ได้ รับรองว่าไม่นานเครื่อง Computer ของท่านจะต้องโดนเล่นงานอย่างแน่นอน หุหุ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถไปหาอ่านได้ที่ ThaiKaspersky และ KasperskyLab ครับผม
ที่มา : http://dirofblue.exteen.com/20090909/review-kaspersky-internet-security-2010-kis2010
Kaspersky Internet Security 2010 กวาดรางวัลจากสามนิตยสารชั้นนำแห่งสเปน
โดย: shyboy เมื่อ: 01/09/2552 : 16.54.09น.กรุงเทพ – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552 – แคสเปอร์สกี้ แลป (Kaspersky Lab) ผู้พัฒนาโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยของคอมเท้นต์ชั้นนำของโลก แจ้งข่าวดีของโปรดักส์ตัวใหม่ล่าสุด Kaspersky Internet Security 2010 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเมืองไทยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้รับรางวัลจากนิตยสารชั้นนำของประเทศสเปน 3 ฉบับด้วยกัน ได้แก่ PC World, Dealer และ TCN ด้วยคุณสมบัติในการปกป้องยูสเซอร์ตามบ้านหรือออฟฟิศย่อยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ให้การคุ้มครองครบถ้วนครอบคลุมทุกจุดของความเสี่ยง โดยแต่ละฉบับได้ให้รายละเอียดการทดสอบผลิตภัณฑ์ไว้ดังนี้ PC World ให้ 5 ดาว และชื่นชอบอินเตอร์เฟซแบบใหม่ที่ใช้ง่ายแบบไม่ต้องคิดมาก และเทคโนโลยี Safe Run โดยระบุว่า “ฟังก์ชั่นคอนโทรลแอพพลิเคชั่นขั้นแอดว้านซ์นั้นเรียกได้ว่าน่าสนใจมาก เพราะสามารถควบคุมการเปิดปิดแอพพลิเคชั่นได้โดยตรง ซึ่งยังไม่เคยพบในโปรดักส์ใดมาก่อน” ส่วนนิตยสารสำหรับกลุ่มนักธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่าย Dealer World แสดงความมั่นใจในคุณภาพของโปรดักส์ถึงขั้นยินดีการันตีรับรองคุณภาพด้วยการมอบ “Dealer World Guarantee” อันเป็นรางวัลขั้นสูงสุดของนิตยสารฉบับนี้ เพราะได้เห็นถึงประสิทธิภาพความเร็วการสแกนของ Kaspersky Internet Security 2010 แบบเต็มรูปแบบ (full scan) ของระบบที่ลง Windows Vista ไว้ได้เสร็จภายในเวลาเพียง 14 นาทีเท่านั้น และไม่ถึง 1 นาทีสำหรับการสแกนด่วน (quick scan) พร้อมไฟร์วอลล์สองทาง และนิตยสารสำหรับธุรกิจช่องทางจัดจำหน่ายรายสัปดาห์ TCN ได้จัดให้ Kaspersky Internet Security 2010 เป็นโปรดักส์แนะนำ “Recommended Product” ด้วยการคุ้มครองปกป้องอินเตอร์เน็ตยูสเซอร์ที่ครอบคลุมครบถ้วน |
Kaspersky Internet Security 2010 โปรแกรมรักษาความปลอดภัยแห่งอนาคต
แม้ว่าตอนนี้เพิ่งจะอยู่ในช่วงกลางปี 2009 แต่ว่าบรรดาผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสทั้งหลายต่างก็ได้เตรียมที่จะเปิดตัวโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เป็นเวอร์ชันสำหรับปี 2010 กันแล้วหลายราย และหนึ่งในบรรดาโปรแกรมป้องกันไวรัสที่น่าสนใจอีกโปรแกรมหนึ่งในช่วงระยะเวลาสองสามปีที่ผ่านมานี้ก็คือ โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มาจากบริษัท Kaspersky Lab ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์สัญชาติรัสเซีย
ส่วนโปรแกรมป้องกันไวรัสของ Kaspersky ที่ออกมาใหม่ล่าสุดในตอนนี้ก็ประกอบไปด้วย Kaspersky Antivirus 2010 และ Internet Security 2010 ส่วนโปรแกรมอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้เล็กน้อยก็ได้แก่ Kaspersky Special Edition for Ultra-Portables ซึ่งเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสและรักษาความปลอดภัยสำหรับโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยเป็นพิเศษ ส่วนอีกโปรแกรมที่น่าสนใจก็คือ Mobile Security ซึ่งเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสและรักษาความปลอดภัยบนเครื่องพีดีเอโฟนที่ใช้วินโดวส์โมบายเป็นระบบปฏิบัติการ
แต่โปรแกรมที่เราได้นำมาทดสอบและแนะนำกันในคราวนี้จะเป็น Kaspersky Internet Security 2010 ซึ่งเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ แบบครบชุด ซึ่งจะเป็นระบบที่มีการทำงานครอบคลุมตัว Kaspersky Antivirus 2010 ด้วย (เพื่อความคล่องตัวต่อไปจะขอเรียก Kaspersky Internet Security ย่อๆ ว่า KIS)
หน้าจอหลักของ KIS 2010 ที่มีความแตกต่างไปจาก KIS 2009 เล็กน้อย ผู้ที่เคยใช้งานมาก่อนก็คงจะทำความคุ้นเคยได้ไม่ยาก ส่วนผู้ใช้ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับ KIS มาก่อนก็สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมีการออกแบบที่ให้ใช้งานง่าย รวมไปถึงมีคำอธิบายสั้นแต่ได้ใจความที่ชัดเจนกำกับเอาไว้ด้วย ในหน้าจอหลักก็จะประกอบไปด้วยส่วนการทำงาน 5 หัวข้อด้วยกันคือ
My Protection ซึ่งในส่วนนี้ทำหน้าที่ในการแสดงภาพรวมหรือสถานการณ์ทำงานของโปรแกรมทั้งหมด
My Security Zone ส่วนนี้จะใช้ในการตรวจสอบ ระดับการทำงานของการรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงการควบคุมการทำงานของแอพพลิเคชันต่างๆ ด้วย
Scan My Computer ตรงนี้ก็จะเป็นหน้าจอสำหรับใช้สั่งงานให้โปรแกรมทำการสแกนไวร้สตามความต้องการของเรา เราสามารถที่จะเลือกเฉพาะไดร์ฟบางตัว หรือเลือกสแกนทั้งหมดก็ได้
My Update Center หน้าจอนี้ไม่มีอะไรพิเศษครับ ว่ากันด้วยเรื่องของการอัปเตดข้อมูลในการค้นหาไวรัสนั่นเอง แต่ที่เราชอบเป็นพิเศษก็คือโปรแกรมมีการแยกประเภทของไวรัสและโปรแกรมไม่พึงประสงค์ต่างๆ อย่างชัดเจน และยังบอกอีกด้วยว่าฐานข้อมูลที่ใช้อยู่นั้นสามารถตรวจสอบไวรัสหรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์ได้อย่างละเท่าไร
Security+ ตรงนี้เป็นเครื่องมือที่ขยายเพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อให้เราสามารถทำงานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในด้านอื่นๆ ได้ อย่างเช่นส่วนของ Parental Control อันนี้ก็เหมาะสำหรับพ่อแม่ ที่จะใช้ป้องกันการเยี่ยมชมเว็บไซท์ ไม่พึงประสงค์ของบุตรหลานได้
จุดเด่นประการหนึ่งของ KIS 2010 ก็คือเมื่อทำการติดตั้งแล้วคุณแทบจะไม่ต้องไปยุ่งกับการทำงานของโปรแกรม KIS 2010 อีกเลย จนบางครั้งคุณอาจจะลึมไปเลยว่าคุณได้ติดตั้งโปรแกรม KIS 2010 ลงไปแล้ว เพราะการทำงานต่างๆ นั้นจะเป็นไปโดยอัตโนมัติเกือบทั้งหมด จะมีเพียงครั้งแรกของการติดตั้งเท่านั้นที่อาจจะต้องใช้เวลาในการตอบคำถามต่างๆ ของโปรแกรม ซึ่งก็เป็นคำถามง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ซึ่งส่วนใหญ่โปรแกรมก็จะทำการตรวจสอบว่าเครื่องของเราติดตั้งโปรแกรมอะไรอยู่บ้าง และมีโปรแกรมตัวใดที่ต้องทำงานเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาบ้าง เพื่อเป็นการอนุญาตให้โปรแกรมเหล่านั้นสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ และถูกดูแลความปลอดภัยโดย KIS 2010 นั่นเอง
ในรูปด้านบนเป็นข้อความหลังจากการติดตั้งในครั้งแรกซึ่งเป็นการตรวจสอบว่ามีโปรแกรมอะไรที่ต้องใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตบ้าง KIS 2010 จะทำการเรียนรู้และตรวจสอบการทำงานให้เราโดยอัตโนมัติ และจะคอยรายงานให้เราทราบด้วยในกรณีที่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น
และถ้าหากเราต้องการจะรู้จริงๆ ว่าโปรแกรม KIS 2010 นั้นมีความสามารถในการทำงานด้านใดบ้างเราก็ต้องลองเข้ามาดูที่หน้าจอ Setting ซึ่งในหน้าจอนี้เราก็จะพบว่า KIS 2010 นั้นมีความสามารถในการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ในระดับไฟล์ การใช้งานอีเมล การใช้งานเว็บ การใช้งานแอพพลิเคชัน การใช้งานไฟร์วอลล์ การป้องกันทางเน็ตเวิร์ค การป้องกันสแปม การป้องกันเบนเนอร์ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้เราก็จะเห็นว่า KIS 2010 นั้นทำงานและสามารถรักษาความปลอดภัยให้เราอย่างรอบด้านเลยทีเดียว
หน้าจอ Virus Watch ที่เราสามารถเข้าไปดูความเคลื่อนไหวของโปรแกรมไวรัสต่างๆ ทั่วโลกได้ในแบบ Real Time ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าทุกนาทีจะมีโปรแกรมไวรัสและโปรแกรมไม่พึงประสงค์อื่นๆ เกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอด และ Kaspersky ก็จะทำหน้าที่ในการอัปเดตและหาทางกำจัดโปรแกรมร้ายเรานั้นอยู่ตลอดเวลาให้เราเช่นกัน
สรุป
จากการใช้งาน KIS 2010 มาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนเต็ม ก็ต้องบอกว่าเราพอใจกับประสิทธิภาพในการทำงานของโปรแกรม KIS 2010 อย่างมาก และตลอดเวลาที่เราใช้งาน KIS 2010 เราก็ยังไม่เคยถูกโจมตีจากโปรแกรมร้ายใดๆ รวมไปถึงการเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงสูงๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็ยังปลอดภัยดีทุกประการ KIS 2010 จึงเป็นโปรแกรมอีกตัวหนึ่งน่าสนใจอย่างมากสำหรับทำหน้าที่ในการปกปอ้งคอมพิวเตอร์และข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยจากการใช้งานในทุกรูปแบบ และที่สำคัญ KIS 2010 ยังสามารถทำงานบน Windows 7 ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย หมายความว่าถ้าคุณใช้วินโดวส์รุ่นเก่าอย่าง XP หรือ Vista อยู่ในเวลานี้ ถ้ามี Windows 7 ออกมา คุณก็สามารถทำการอัปเกรดระบบปฏิบัติการของคุณได้ทันทีและยังสามารถใช้ KIS 2010 ได้ต่อไปโดยไม่ต้องกังวล
ที่มา : http://www.quickpcextreme.com/blog/archives/3454
แหล่มเลยครับ ขอบคุณครับ